Pentium II 350 MHz to 450 MHz (Deschutes on Slot 2 Socket) or ( may be Pentium III)
ซีพียูรุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นซีพียูเพนเทียมทู Deschutes รุ่นที่สอง เพราะยังใช้สถาปัตยกรรมภาย ในต้วซีพียูเดียวกับเพนเทียมทู Deschutes รุ่นแรก แต่ทางอินเทลได้นำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใส่เพิ่มเติมเข้าไปอีกเพื่อให้ซีพียูมีความเร็วสูงขึ้น ซึ่งถือได้ว่าซีพียูรุ่นที่สองนี้เป็นซีพียูเพนเทียทู
Deschutes อย่าแท้จริง โดยสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงในซีพียูรุ่นนี้มี1. Slot2 ในซีพียูรุ่นนี้อินเทลได้นำเอาสล็อตแบบใหม่มาใช้แทนสล็อตวัน ( Slot One ) รุ่นเดิม โดยมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า สล็อตทู ซิ่งสล็อตรุ่นนี้จะมีหน้าสัมผัส (Contact ) สำหรับนำไฟฟ้า
จากการ์ด SECไปยังเมนบอร์ด มากกว่าสล็อตวันหนึ่งแถว (ในสล็อตวันจะมีสอ§แถวซ้อนกันอยู่คล้ายหน้า สัมผัสของบัสแบบ AGP แต่ ใน สล็อตทูจะมีแถวซ้อนกัน) สล็อตทูนี้นะมีขนาดพอๆ กับสล็อตวันเดิมจะ ทำงานที่ความเร็วเดียวกับระบบบัสซึ่งความเร็วสัญญาณนาฬิกาของ ระบบบัสทำ ให้หน่วยความจำ แคชระดับสองที่อยู่ลนการ์ด SEC ทำงานที่ความเร็วเดียว กับซีพียู (คล้ายๆ กับหน่วยความจำแคชระดับสอง
ที่อยู่ในซีพียูเพนเทียมโปร) ความเร็วของซีพียูรุ่นนี้จึงสูงมากขึ้นไปอีกด้วยสล็อตแบบใหม่ ไม่เกิดคอขวด ระหว่างการส่งผ่านข้อมูลของซีพียูกับหน่วย ความจำแคชระดับสอง และไม่เกิดคอขวดระหว่างการส่งผ่าน ข้อมูลของซีพียูกับªÔพเซ็ตบนเมนบอร์ด ดังนั้น ชิพเซ็ตบนเมนบอร์ดก็จะทำงานที่ความเร็วเดียวกับซีพียูด้วย2. CSRAM หน่วยความจำแคช ระดับสองที่อยู่บนการ์ด SEC ที่ใช้ในตัวนี้ จะไม่ใช้แบบ BSRAM แบบเดิม แต่จะใช้หน่วยความจำแคชแบบใหม่ที่พัฒนาโดยอินเทลเองชื่อว่า CSRAM ซึ่งหน่วยความจำแคชชนิดนี้
จะมีความเร็วในการทำงานสูงขึ้นกว่าแบบ BSRAM ประมาณสองเท่าโดยยังสามารถที่จะรอรับการทำงาน ได้ดีบนความเร็วในช่วงสัญญาณนาฬิกาแบบระบบบัส 100MHz นอกจากนี้ทางอินเทลยังคิดจะเพิ่มขนาด
ของหน่วยความจำแคชระดับสองจากเดิมอยูู่ที่ 512KB ขึ้นไปเป็น 1MB และ 2MB ภายในสิ้นปีนี้3. four way Multiprocessor ซีพียูเพนเทียมทู Deschutes รุ่นที่สองนี้สามารถรองรับการทำงาน ร่วมกัน ของซีพียูได้สูงสุด 4 ตัว เช่นเดียวกับซีพียูเพนเทียมโปร (ในซีพียูเพนเทียมทูเดิมสามารถรองรับได้สูงสุด 2 ตัว) ทำให้ซีพียูตัวนี้เหมาะที่จะใช้ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับเวิร์กสเตชัน หรือ Serverที่ต้องการพลังในการ ประมวลผลข้อมูลสูงมากๆ
เป็น ซีพียูที่คาดว่าจะออกมาในช่วง ปี 1999 โดยจะมีความเร็วเริ่มต้นที่ 500 MHz ใช้ความเร็ว FSB ที่ 100MHz ในซีพียูรุ่นนี้ จะมีการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ที่ เรียกว่า Katmai หรือ MMX2 เข้ามาใช้ ซึ่ง MMX2 นี้ จะคล้ายกับเทคโนโลยี MMX เดิมที่เพิ่มคำสั่งใหม่ เข้าไปในตัวซีพียู 57 คำสั่ง แต่ใน MMX2 นี้จะเพิ่มเข้าไปอีก 70 คำสั่งจากเดิมที่เพิ่มไปแล้ว 57 คำสั่งอีกทั้งเทคโนโลยี MMX2 นี้ยังทำงานแบบ 32บิต ด้วย ไม่เหมือนเทคโนโลยี MMX เดิมที่ทำงานแบบ 16บิต ทำให้เทคโนโลยี MMX2 สามารถทำงาน ได้รวดเร็วกว่า MMX เดิมโดยคำสั่งใหม่ทั้ง 70คำสั่ง นี้จะช่วยในการประมวลผลเลขทศนิยม FPU และ สามมิติ ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม คล้ายๆกับคำสั่งใหม่ 24 คำสั่ง ที่เพิ่มเข้าไปในซีพียูตระกูล K6 3D และ K6+ 3D ของ AMD หรือในซีพียู 6x86MXi ของ Cyrix นอกจากนี้คาดว่าในซีพียู Katmai ยังจะมีการเพิ่มขนาด ของหน่วยความจำแคชระดับหนึ่ง (Cache L1)ขึ้นไปเป็น 64KB (หน่วยความจำแคชสำหรับ คำสั่งขนาด 32KB+หน่วยความจำแคชสำหรับข้อมูล 32KB )ด้วย ส่วนแคชระตับสอง(Cache L2)จะใช้ขนาด 512KB และซีพียูตระกูลนี้Ùรุ่นแรกจะใช้เทคโนโลยีการผลิต0.25ไมครอน เหมือนกับDeschutes
เป็นซีพียูในสายการผลิต P6 ที่เพิ่มความเร็วในหลายๆวิธีเช่น เพิ่มส่วน Decoder, Execution Unit, Buffer, หรือ แคชขนาดใหญ่ขึ้น จะมีความเร็วสูงกว่าซีพียูเพนเทียมทู Deschutes ที่ความเร็วเดียวกันประมาณ 30 - 50% จะเริ่มมีการใช้เทคโนโลยี การผลิตขนาด 0.13 ไมครอน และเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาจาก 600 MHz เป็น 1.2 GHz เราอาจไเป็นซีพียูยุคต่อไป(P6.5?) อาจเป็นโปรเซสเซอร์ IA-32 ตัวสุดท้ายและอาจจะมีการรวมเอาเทคโนโลยีระบบบัสแบบใหม่ของ DEC Alpha มาใช้ด้วยก็ได้é
จะวางตลาดในช่วง ปี 2000 ซีพียูตัวแรกที่อินเทลและ HP ร่วมมือกันพัฒนาใช้สถาปัตกรรม IA-64 และเทคโนโลยี EPIC (Explicitly Parallel Instruction Computing) IA-64 ทิ้งงานส่วน Optimisatin ไว้กับ คอมไพเลอร์ แต่เอาโค้ดที่คอมไพล์มากกว่าขึ้นกับโปรเซสเซอร์แต่ลดชิปส่วนตรรกเพื่อวิเคราะว์และจัดองค์กรใหม่กับโค้ดระหว่างทำงานลง แสดงให้เห็นว่าอินเทลสามารถทำสถาปัตยกรรมให้สมดุลได้ และยังคงเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ ของ IA-32 แม้ว่าผลิตภัณฑ์ภายหลัง ของ IA-64 ต้องใช้การแปลงซอฟต์แวร์ ก็ตามนอกจากนี้ ซีพียู จะมีการใช้หน่วยประมวลผลเลขทศนิยมมากถึง 4 ชุดจนขนาดของแผ่นเวเฟอร์อาจขยายไปถึง 300 ตร.มม. โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ 0.18 ไมครอน ซีพียูตระกูลนี้จะเริ่มที่ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 800 MHz กับบัส 128 บิต แบบ สล็อต M เหมือนกับที่ทำงานที่ 200 MHz ให้แบนด์วิธสูงถึง 3.2 GB/s McKinley/Flagstaff
ปี 2001 ชิปซีพียู IA-64 ยุคที่สอง McKinley ควรเริ่มต้นที่ 1GHz ทาง HP ตั้งใจพัฒนาชิปตัวนี้มากกว่า Merced และประสิทธิภาพของชิปก็มากเป็น สองเท่าเมื่อเทียบกับMerced
เป็นซีพียูตระกูล K6 ของ AMD โดยเริ่มต้นที่ความเร็ว 300MHz และจะเพิ่มไปถึงความเร็ว 350MHz ซีพียูตัวนี้นะมีความ สามารถใหม่เพิ่มขึ้นคือ - AMD 3D Technology
ซึ่งเป็นการเพิ่มคำสั่งใหม่ลงไปในตัวซีพียูคล้ายคำสั่ง 57 คำสั่งของเทคโนโลยี MMX แต่ คำสั่งใหม่ที่เพิ่มขึ้นในซีพียู K6 3D นี้จะทำหน้าที่ช่วยเร่ความเร็วในการประมวลผลข้อมูลมัลติมี เดียให้สูงขึ้นมากกว่าเทคโนโลยี MMX เดิมเช่น การเพิ่มความเร็วในการประมวลผลข้อมูลกราฟิก สามมิติ, ข้อมูลเสียง หริช่วยเร่งความเร็วในการทำงานของซอฟต์แวร์มัลติมีเดียต่างๆ- Superscalar MMX Unit
เป็นการเพิ่มวงจรการถอดรหัสข้อมูลเป็นสองชุด โดยจะทำงานร่วมกับ Pipeline สองชุด และปรับ ปรุงรูปแบบ หรือขั้นตอนการประมวลผลให้มีความเร็วสูงขึ้น- 100 MHz Local Bus
เป็นการเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาของระบบบัสไปเป็น 100MHz (เดิมมีความเร็ว 66MHz) ทำให้หน่วยความจำแคชระดับสอง (Cache L2) ทำงานได้เร็วขึ้น 50% อีกทั้งยังมีการออกแบบ หน่วย อินพุต เอาท์พุตขึ้นใหม่ให้สามารถทำงานได้ที่ความเร็ว 100MHz- 9.3 Million Transisters on a Die of 81 square mm
เป็นการเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์ในตัวซีพียูไปเป็น 9.3 ล้านตัวในขนาดของตัวชิพที่เล็กเพียง 81 ตารางมิลลิเมตร1. สนับสนุนคำสั่งในการประมวลผลเลขทศนิยมแบบ Single Instructions Multiple Data (SIMD) โดยจะสนับสนุน
- IEEE single precision data type
- two 32 bit FP values per 64 bit registo/memmory operand
- MMX registers2. สนับสนุนคำสั่งที่เพิ่มขึ้น 24 คำสั่งนอกเหนือจากคำสั่ง MMX 57 คำสั่ง
3. สนับสนุนการส่งผ่านข้อมูลความเร็วสูงภายในตัวซีพียู ซึ่งจะมี
- saturating artithmetic
- no exceptions
- limited rounding modes
- avoid x87 register stack
ซีพียูรุ่นนี้ทาง AMD ได้ออกแบบให้เร็วกว่ารุ่น K6 3D ด้วยการใส่หน่วยความจำแคชระดับสอง ( Cache L2 ) ขนาด 256KB เข้าไปรวมไว้ภายในตัวซีพียูเลย (คล้ายกับซีพียู เพนเทียมทู) แต่ ยังคงสามารถ เพิ่ม เติมหน่วยความจำ
แคชระดับสาม ( Cache L3 ) ในเมนบอร์ดได้ด้วย เพื่อเป็น การเพิ่มความเร็ว ในการทำงาน ของซีพียูให้สูงขึ้นไปอีก (เช่นเดียวกับซีพียู Alpha ของ Digital) ซีพียูรุ่น K6+ 3D นี้จะมีความเร็วเริ่มต้นที่ 350MHz และจะพัฒนา
ไปจนถึงความเร็ว 400MHz หรือ สูงกว่าโดยซีพียูตัวนี้ ยังคงทำงาน อยู่บน ซ็อกเก็ตหมายเลข 7 เช่นเดียวกับซีพียู K6 และ K6 3D สิ่งที่ซีพียูรุ่นนี้มีเพิ่มขึ้นคือ- หน่วยความจำแคชระดับสอง ( Cache L2 ) ที่สามารถทำงานได้ที่ความเร็วเดียวกับซีพียู โดยจะมีขนาด 256KB หน่วยความจำแคชระดับสองนี้จะมีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล 4-1-1-1 ซึ่งจะทำให้มีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูงถึง 3.2GB ต่อวินาทีที่ความเร็วของ ซีพียู 400MHz
- สนับสนุน Write Buffering, Pipelining และ Combining
- สนับสนุนการทำงานร่วมกับความเร็วของระบบบัสที่ 100MHz
- สนับสนุนการทำงานร่วมกับหน่วยความจำแคชระดับสาม ( Cache L3 )
- ใช้ทรานซิสเตอร์ 21.3 ล้านตัวบนขนาดของตัวชิพที่ 135 ตารางมิลลิเมตร
ข้อมูลของ K7 มีน้อยมาก จะทราบก็เพียงแต่ว่าเป็นซีพียูที่ใช้ แพคเกจแบบ BGA ( ลักษณะ คล้ายชิพเซ็ต 440LX ของอินเทล) มีสีของตัวซีพียูเป็นสี เขียวในการใช้งานจะต้องใช้งานร่วมกับ สล็อตสำหรับซีพียูแบบใหม่ที่ทาง AMD เรียกว่า "สล็อตเอ ( Slot A )" ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือสล็อต วัน ( Slot 1 ) ที่ใช้กับซีพียูเพนเทียมทูนั่นเอง ซีพียูตัวนี้นะใช้โปรโตคอลของระบบบัสในการติดต่อสื่อสาร ระหว่างซีพียูกับอุปกรณ์ต่างๆ แบบ EV6 เช่นเดียวกับที่ใช้ในซีพียู Alpha ของ Digital เมื่อซีพียูรุ่นนี้ ใช้งานร่วมกับ สล็อตเอ หรือ สล็อตวัน เช่นเดียวกับซีพียูเพนเทียมทู ซีพียูรุ่นนี้จึงสามารถใช้งานกับ เมนบอร์ดทั่วๆไปทุกรุ่นที่ใช้กับ เพนเทียมทูด้วย คาดว่าซีพียูรุ่นนี้จะออกมาภายในปี 1999 และจะมี ความเร็วเริ่มต้นที่ 500MHz
ซีพียูรุ่นนี้จะเป็นซีพียูตระกูลใหม่ของ cyrix มีชื่อระหัสในการพัฒนาว่า " Cayenne" ทางCyrix ออกแบบให้ ซีพียูตระกูลนี้มีความสามารถในการประมวลผลสูงขึ้น โดยเพิ่ม Pipeline และหน่วยประมวลผลเลขทศนิยม ไปเป็นสองชุดโดยมีการปรับปรุงหน่วยประมวผลเลขทศนิยมให้มีความเร็วในการทำงานสูงขึ้น มีการเพิ่มเทคโนโลยี MMX แบบใหม่เข้าไปภายใน (เป็นการเพิ่มชุดคำสั่ง MMX ทั้ง 57 คำสั่ง) และใช้เทคโนโลยีในการผลิตขนาด 0.25 ไมครอน หน่วยประมวลผลเลขทศนิยมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้สามารถทำงานได้ด้วยความเร็วเป็น 2 หรือ 3 เท่าจากหน่วยประมวลผลเลขทศนิยมเดิม เทคโนโลยี MMX ชนิดใหม่นี้มีการทำงานทุกอย่างคล้ายๆ กับที่ใช้ใน ซีพียูตระกูล K6 3Dโดยมีการเพิ่มคำสั่ง ที่ช่วยในการประมวลผลข้อมูลทางมัลติมีเดียเพิ่มมากขึ้น ซีพียูรุ่นนี้ สนับสนุนการประมวลผลเลขทศนิยมแบบ SIMD มีความเร็วในการทำงานมากกว่า 1GFLOP ซีพียู Cayenne จะมีความเร็วเริ่มต้นที่ 300 MHz ไปจนถึง 400 MHz บนเทคโนโลยีการผลิตขนาด 0.25 ไมครอน ภายในขนาดของตัวชิพที่ 65 มิลลิเมตร